เบอร์เบิ้น (Bourbon) คืออะไร
Bourbon Whiskey คือวิสกี้แต่จะถูกเรียกว่าเบอร์เบิ้นได้ต้องมีส่วนผสมของข้าวโพดไม่ต่ำว่า 51% และเมื่อนำไปผสมกับธัญพืชหรือส่วนผสมอื่นๆ จะมีแอลกอฮอล์ไม่เกิน 62.5% และต้องบ่มในถังโอ๊คใหม่ที่มีกระบวนการเผาถังไม้โอ๊คทำให้ที่ได้เหล้าออกเป็นสีน้ำตาลแดงอ่อนๆ นับว่าเป็นเอกลักษณ์ของเบอร์เบิ้น ถ้าพูดถึงการหมักโดยผ่านกระบวนการเผาถังโอ๊คต้อง ย้อนกลับไปในสมัยที่ Kentucky ที่ยังยังคงผลิตสินค้า Moonshine และส่งไปสู่ทาง New Orleans สายแม่น้ำ Mississippi ซึ่งตอนนั้นไม่มีถัง หรือพวกพาชนะที่มีความเหมาะสมในการขนส่งเหล้าที่มีจำนวนเยอะๆ ผู้ผลิตตอนนั้นได้นำถังปลามาปรับแต่งให้ใช้ข่นสงและบรรจุเหล้าได้ แต่ปัญหาที่ตามมาคือกลิ่นคาวของการขนส่งปลาที่ใช้ถังหรือภาชนะเดียวกัน ซึ่งทำให้กลิ่นะเหล้าเสียหาย หลังการนั้นได้เริ่มมีการเผาถังไม้เพื่อฆ่าเชื้อ ดับกลิ่นคาวของปลา จากนั้นเทเหล้าลงไป ซึ่งควันไหม้บนไม้ทำการค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปยังตัวเหล้าทีละช้าๆ ทำให้รสชาติของ Moonshine มีความหอมเข้มข้นกลมกล่อมมากขึ้นผสมกับกลิ่นหอมควันและหอมไม้ขึ้น จึงกลายมาเป็นวิถีปฎิบัติที่ดำเนินมาจนถึงในปัจจุบัน
ประวัติความเป็นมาของ Jim Beam Bourbon
วิสกี้ที่มีชื่อเสียงจากอเมริกันรายการแรก ๆ ที่เหล่านักดื่มนึกถึงคงหนีไม่พ้นวิสกี้หลักของทาง Jim Beam bourbon ปัจจุบันถือว่าเป็นต้นตำรับที่มีฐานมาจากวิสกี้ข้าวโพดดั้งเดิมของ Jacob Beam ซึ่งผลิตในเชิงพาณิชย์ครั้งแรกใน Clermont Kentucky ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 1795 ซึ่งชื่อ Jim Beam นั่นตั่งเพื่อให้เป็นเกควรแก่ เจมส์ บี บีม ผู้ก่อตั้งธุรกิจนี้ขึ้นมา ซึ่งตะกูลของพวกเขามาจากประเทศเยอรมันนีและย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่เคนตั๊กกี้ จึงก่อให้เกิดแบนวิสกี้ที่มีชื่อเสียงที่นักดื่มหลายๆคนเมื่อพูดชื่อขึ้นต้องร้องอ๋อ ความโดดเด่นของของวิสกี้ Jim Beam bourbon คือความสดใหม่ของไม้โอ๊คที่ตามกฎหมายบังคับต้องบ่มในไม้โอ๊คใหม่ ข้าวโพดต้องเป็นข้าวโพดอย่างดีอย่างน้อย 51เปอร์เซ็นต์ และไม่เติมสารปรุงแต่งใดๆสีและกลิ่นยังคงความเป็นธรรมชาติตามสไตล์ที่ซื่อตรงไปมาอย่าง Jim Beam bourbon วิสกี้ที่ดียิ่มมีอายุอย่างน้อยสองปี ส่วน Jim Beam Original ต้องมีอายุ 4 ปี ทางบริษัทเคลมว่ายีสต์ที่ทางบริษัทใช้เป็นยีสต์สายพันธุ์ต้นตำรับดั่งเช่นสายพันธุ์ใน ปีพ.ศ. 2476 เพื่อให้นักดื่มได้มั่นใจถึงคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่มอบความสม่ำเสมอกับนักดื่ม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์พิเศษของทางแบนที่มอบเอกลักษณ์และความพิเศษให้กับนักดื่มได้จดจดและหาวิสกี้อื่นใดเทียบได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Jim Beam Original ต้องการให้คุณได้รับคือ Jim Beam bourbon ที่ซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา บนเพดานที่กระหายถึงรสวิสกี้ในปาก มันไม่ได้ซับซ้อนมากอย่างที่คุณคิด แต่ก็ไม่ธรรมดาที่จะลิ้มลอง ความงามของวิสกี้ข้าวโพดอ่อนผสมไม้โอ๊คและเครื่องเทศจะกระทบกับเพดานปากอันร้อนแรงของคุณทันทีและเป็นสิ่งที่คุณต้องการในตอนท้าย ดูเหมือนว่า Jim Beam bourbon จะเดาไม่ออกถึงมีจุดประสงค์ที่แท้จริง ที่มอบให้มีแต่เพื่อสร้างความกระฉับกระเฉง ความไม่ซับซ้อนทำให้เหล่านักดื่มอาจพบว่ามันง่ายเกินไปในแง่ของรสชาติและลักษณะ แต่พวกเขาอาจจะไม่ลืมความธรรมดาที่แสนจะพิเศษนี้ได้อย่างง่ายดายโดยการจิบเพียงครั้งสองครั้งพวกเขาจำได้ว่าวิสกี้นี้เริ่มต้นจากที่ใดส่วน Jim Beam Double Oak เป็นเครื่องดื่มที่ถือว่าเป็นที่สุดพรีเมี่ยมในตระกูล จิม บีม ที่เหล่านักดื่มทุกคนรอคอย ซึ่งได้ทำการพิธีพิถีพิถันการเบอร์เบินเลื่องชื่อจากเคนตั๊กกี้ ถูกบ่มในถังไม้โอ๊คอเมริกันเป็นอย่างดี มากถึงสองถังทีเดียวนับว่าถือเป็นสูตรดับเบิ้ลที่แสนจะพิเศษจาก Jim Beam bourbon ยิ่งไปกว่านั้นความพิเศษยังเกิดขึ้นจากถังไม้โอ๊คอเมริกันขาวรมไฟใหม่ หรือที่เรียกกันว่า new charred American white oak barrels ของ จิม บีม ก่อนจะถูกถ่ายไปยังถังไม้โอ๊คที่สองหรือที่เรียกว่า a second charred oak barrel สำหรับการหมักบ่มในช่วงต่อไป การใช้ถังไม้ถึงสองครั้งนี้ จะทำให้วิสกี้สัมผัสกับเนื้อไม้ได้อย่างดีเยี่ยมถือเป้นการดึงเอาเอกลักษณ์รสชาติที่นุ่มลึก และมีความลงตัวแบบบาลานซ์ได้ออกมาได้เป็นอย่างดี รสที่เข้มแต่มีสัมผัสที่นุ่มนวลนี้จะเป็นตัวดึงเหล่านักดื่มให้ดื่มด่ำถึงความงดงามของวิสกี้ Jim Beam bourbon ในส่วนของการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่ Jim Beam ขวดบรรจุภัณฑ์ของ Jim Beam Double Oak มีความโดดเด่น ด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยเนื้อแก้วที่มีลายปั้มนูนยกสวยงามผสมกับภาพพิมพ์ลายแกะ การหุ้มด้วยกระดาษฟอยล์ ดังนั้นบรรจุภัณฑ์ของ Jim Beam Double Oak เป็นการแสดงถึงคุณภาพอันยกระดับของผลิตภัณฑ์ให้มีวามฮายและมีคุณค่าอย่างแท้จริง การดื่มเบอร์เบิ้นที่นิยมดื่มแบบคือไม่ผสมอะไรเลย หรือจะเรียกว่า ‘neat คือการนำเบอร์เบิ้นมาใส่แก้วแล้ว swirl เล็กน้อยเพื่อทำให้อากาศได้แทรกเข้าไปในเบอร์เบิ้น และทำให้โน้ตโอ๊ค และสโม๊คกี้ของเบอร์เบิ้นถูกดึงออกมาได้อย่างชัดเจน
ถ้าให้กล่าวถึง Jim Beam bourbon คงนึกถึงแบรนด์เบอร์เบิ้นยักษ์ขนาดใหญ่ที่ผลิต และกลั่นเหล้ามาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1800 ที่ผลิตเน้นถึงเรื่องมาตรฐานคุณภาพของเบอร์เบิ้นที่ควรอนุรักษ์ไว้และไม่ทิ้งเอกลักษณ์ความเป็นตัววิสกี้ และราคาที่ไม่สูงมาก นักดื่มทั่วๆไปสามารถเข้าถึงรสชาติของแบรนด์ได้อย่างง่ายดายทุกรุ่นทุกสมัย ทางแบนมีสินค้าเยอะและมีความหลากหลายสไตล์ ดดนใจทั้งคนชอบความคลาสสิก ไปจนถึงนักดื่มรุ่นใหม่ที่อาจจะชอบความเป้นเบอร์เบิ้นที่แปลกใหม่มีสีสัน และรสชาติหลากหลาย จึงไม่แปลกใจที่ Jim Beam bourbon สามารถอยู่คู่กับประวัติศาสตร์วิสกี้มาอย่างช้านาน
Ref : https://wineman.asia/bourbon/