เครื่องดื่มแห่งการเฉลิมฉลอง หรือ เครื่องดื่มแห่งความสำเร็จคงต้องยกให้กับเครื่องดื่มที่ผลิตมาจากองุ่น (องุ่นเป็นผลไม้สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จและความอุดมสมบูรณ์) อย่างคอนยัค แต่เมื่อพูดถึงคอนยัคแล้ว หลาย ๆ ท่านที่ยังไม่เชี่ยวชาญการแยกประเภทของเครื่องดื่มที่ผลิตมาจากองุ่นซึ่งมีความหลากหลายอาจเกิดความสับสนกันได้ว่าทั้งไวน์ เบียร์ บรั่นดี หรือ คอนยัคนั้นเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร แต่ถ้าท่านเป็นนักดื่มตัวยงแล้วคงจำแนกประเภทของเครื่องดื่มเหล่านี้ได้ไม่ยาก และหากเราเฉพาะเจาะจงไปที่เครื่องดื่มประเภทคอนยัคแล้วก็ต้องยกให้กับคอนยัคในแบรนด์ Remy Martin ที่เป็นสุดยอดคอนยัคระดับตำนาน ขวัญใจนักดื่มทั้งหลาย ซึ่งในบทความนี้เราขอพาทุกท่านไปพบกับเรื่องราวเหล่านี้กัน
ประเภทของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ก่อนอื่นเลยเราขอพาทุกท่านไปแยกความแตกต่างของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันก่อนเลย ซึ่งส่วนนี้ก็จะแยกจากปริมาณแอลกอฮอล์ กระบวนการผลิต ระยะเวลาการบ่ม รวมถึงวัตถุดิบที่นำมาใช้ ดังนี้
- ไวน์ เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่คุ้นหูกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นเครื่องดื่มที่มีสีและรสชาติเฉพาะ ไวน์จะเกิดจากการนำองุ่น (ซึ่งคำว่าไวน์แต่เดิมนั้นวัตถุดิบต้องเป็นองุ่นเท่านั้น) หรือ ผลไม้ชนิดต่าง ๆ หรือ แม้แต่ดอกไม้มาหมักกับยีสต์ จากนั้นยีสต์จะทำการเปลี่ยนน้ำตาลที่อยู่ในน้ำผลไม้ หรือ น้ำดอกไม้เหล่านั้นให้กลายเป็นแอลกอฮอล์ โดยเครื่องดื่มประเภทไวน์นี้มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 9 – 15% และไวน์ยังแบ่งออกเป็นประเภทย่อย ๆ ได้อีกไม่ว่าจะเป็นแชมเปญ, เชอรี่ หรือ เวอร์มุท
- สปิริต เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เกิดจากการนำไวน์หรือเบียร์มากลั่นอีกรอบหนึ่ง โดยสิปิริตมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 50% และสปิริตยังแบ่งออกเป็นประเภทย่อย ๆ ได้อีกไม่ว่า
- วิสกี้ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เกิดจากกลั่นเบียร์ที่มาจากการหมักเมล็ดธัญพืชทั้งข้าวโพด หรือ ข้าวไรน์ เป็นต้น
- บรั่นดี ซึ่งเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เกิดจากกลั่นไวน์ โดยบรั่นดีที่ดีที่สุด คือ บรั่นดีของประเทศฝรั่งเศสหรือคอนยัคนั่นเอง
ที่มาของแบรนด์ Remy Martin อันยิ่งใหญ่
Remy Martin กับแบรนด์คอนยัคที่มีสัญลักษณ์เป็นรูป Centaur (เซนทอร์) หรือ รูปคนครึ่งม้าซึ่งเป็นสัตว์ในเทพนิยายกรีกที่เป็นสัญลักษณ์แห่งเผ่านักรบที่น่าเกรงขาม นอกจากนี้ในเชิงสัญลักษณ์ประจำจักรราศีแล้ว Centaur ยังเป็นสัญลักษณ์ประจำจักรราศีธนูซึ่งเป็นจักรราศีประจำตัวของ Paul-Emile Rémy Martin (ปอล-อีมิลล์ เรมี มาร์แตง) หรือก็คือรุ่นหลานของผู้ก่อตั้งคอนยัคแบรนด์ในตำนานแบรนด์นี้ โดยผู้ก่อตั้งคอนยัค Remy Martin ก็มีชื่อเดียวกับแบรนด์เลย ซึ่งเขาก่อตั้งในปี 1724 จากนั้นก็มีการส่งต่อกิจการให้รุ่นหลานแล้วก็ดำเนินกิจการต่อเนื่องมาจนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี ค.ศ. 1927 มีเปิดตัวคอนยัครุ่น VSOP Fine Champagne ซึ่งเป็นรุ่นที่มีชื่อเสียงทั่วโลกภายใต้การบริหารของ André Renaud (อังเดร เรโนด) ที่เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของบริษัท และบริษัทก็เติบโตอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยปัจจุบันก็มีการควบรวมกิจการอยู่ในเครือของ Rémy Cointreau (เรมี่ กวงโทร)
พิถีพิถันตั้งแต่แหล่งปลูกสู่ความลงตัวของแบรนด์คอนยัคระดับตำนาน
คอนยัค Remy Martin นั้นใช้องุ่นจากแหล่งปลูก 2 แหล่งสำคัญของโลก คือ Grande Champagne (กรองด์ ชองปาญ) และ Petite Champagne (เปอตี ชองปาญ) ซึ่งเป็นแหล่งปลูกในพื้นที่ของแคว้น Cognac ประเทศฝรั่งเศสที่มีความโดดเด่นของผืนดินที่เป็นดินหินปูนมีความเป็นด่างสูง ทำให้องุ่นที่เป็นวัตถุดิบสำหรับการไปทำเป็นสปิริตนั้นทำให้สปิริคเกิดเป็นกลิ่นที่มีความโดดเด่นเฉพาะ ร่วมด้วยขั้นตอนการผลิตที่ใช้ Eaux-de-Vie (โอ-เดอ-วี) หรือน้ำบรั่นดีใสซึ่งยังไม่ผ่านการบ่ม จากนั้นนำมาเบลนด์เข้าด้วยกัน แล้วบ่มในถังไม้โอ๊คจากป่า Limousin (ลีมูแซง) เพื่อให้เกิดเป็นคอนยัคที่มีเอกลักษณ์ออกมาได้อย่างเต็มที่
คอนยัค Remy Martin เป็นหนึ่งในสี่สุดยอดคอนยัคที่ทั่วโลกยอมรับว่าดีที่สุด โดยเฉพาะรุ่น Rémy Martin Louis XIII ซึ่งเป็นรุ่นระดับตำนานที่นักดื่มตัวจริงต้องได้ลิ้มลองสักครั้ง ด้วยความทรงพลังของรสชาติ และ ความหอมละมุนเฉพาะจึงทำให้แบรนด์คอนยัคดังกล่าวกลายเป็นแบรนด์ขวัญใจนักดื่มทั่วโลกที่เราไม่อยากให้คุณพลาดกัน
เครดิตภาพ : glamthailand.com
อ่านบทความ Hennessy คอนยัคจากศตวรรษที่ 17