เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างยาวนาน รวมถึงเป็นเครื่องดื่มที่อยู่ข้างกายโจรสลัดชื่อดังไม่ว่าจะในประวัติศาสตร์หรืออยู่ในภาพยนตร์อย่างภาพยนตร์ที่เรารู้จักกันดีก็ต้อง Pirates of the Caribbean ซึ่งข้างกายของกัปตันแจ็ก สแปรโรว์จะต้องมีขวดเครื่องดื่มชนิดนี้ไว้ข้างกาย โดยเครื่องดื่มที่เราพูดถึงก็คงเป็นเครื่องดื่มชนิดใดไปไม่ได้ นอกจากเหล้ารัมนั่นเอง สำหรับบทความนี้เราก็ไปทำรู้จักกับตำนานเครื่องดื่มจากยุคโจรสลัดนี้กัน
เหล้ารัม คือ อะไร
ก่อนอื่นเราก็มาทำความรู้จักกับความหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดนี้กันก่อนเลยว่าคืออะไร โดยเหล้ารัม หรือ Rum นั่นก็คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้จากการกลั่นอ้อยและผลิตผลจากอ้อยไม่ว่าจะเป็นกากน้ำตาลจากอ้อย น้ำอ้อย น้ำเชื่อมที่ได้จากน้ำตาลอ้อย หรือน้ำตาลอ้อยนั่นเอง ทำให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดนี้มีรสชาติหวานซึ่งได้จากอ้อย รวมถึงมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะจากอ้อยอีกเช่นกัน
ตำนานเครื่องดื่มจากยุคโจรสลัด
คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส กับการค้นพบโลกใหม่ เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงคุ้นหูกับชื่อของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสซึ่งเป็นนักเดินเรือชาวอิตาลีผู้ค้นพบทวีปอเมริกา เมื่อมีการเดินเรือโดยการนำของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นอกจากการออกสำรวจโลกใหม่ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสยังนำพืชผลบรรทุกไปบนเรือเพื่อนำไปปลูกยังพื้นที่ที่ค้นพบ และหนึ่งในพืชไร่ที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสนำไปด้วยก็คือ อ้อย จึงมีการปลูกพืชไร่ชนิดนี้ขึ้นในราวปี ค.ศ.1493
ยุคตื่นทองคำขาว
ถัดมาในยุคตื่นทองคำขาวเป็นยุคที่ชาวยุโรปหันมาทำเงินกับอุตสาหกรรมไร่อ้อย และอ้อยจากไร่ของชาวยุโรปเหล่านี้ก็ถูกนำไปผลิตเป็นน้ำตาล ซึ่งก็มีผลพลอยได้ตามมาเป็นเหล้ารัมนั่นเอง
ยุคแห่งการค้ามนุษย์
ถัดมาเมื่อการทำไร่อ้อยแล้วก่อให้เกิดผลกำไรหรือเงินทองจำนวนมากจึงทำให้เกิดการขนส่งทาสจากแอฟริกาเพื่อมาเป็นแรงงานทาสในไร่อ้อยเหล่านั้น โดยมีประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่าทาสจากแอฟริกาเหล่านี้ไม่เพียงถูกเกณฑ์มาจากบ้านเกิดอย่างผิดกฎหมาย ยังถูกทารุณเฆี่ยนตี เพื่อใช้แรงงานอย่างหนัก นอกจากนี้ยังถูกทำให้ติดเหล้าเพื่อให้มีความอึดในการทำไร่อ้อยอีกด้วย
ยุคแห่งการเดินเรือแลกเปลี่ยนทาส
เมื่อมีความต้องการใช้แรงงานทาสมากขึ้น ทำให้เกิดการเดินเรือเพื่อขนส่งทาสมายังแผ่นดินที่ต้องการแรงงานทาสเหล่านี้ และสิ่งที่ใช้แลกเปลี่ยนทาสก็ไม่ใช่สิ่งอื่นใด นั่นก็คือ เหล้ารัม นั่นเอง เหล้าชนิดนี้นอกจากใช้แลกเปลี่ยนทาสแล้วก็จะเห็นอยู่ติดเรือเกือบทุกลำ ไม่เว้นแม้กระทั่งเรือของโจรสลัด ทำให้เหล้าชนิดนี้กลายเป็นตำนานเครื่องดื่มแห่งยุคโจรสลัดนั่นเอง
การปฏิวัติอเมริกัน
ยุคนี้เกิดกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมขึ้นซึ่งก็คือ กฎหมายกากน้ำตาลหรือ Molasses Act ที่ออกโดยประเทศอังกฤษอย่างไม่เป็นธรรมเพื่อเป็นการกีดกันไม่ให้มีการขนส่งกากน้ำตาลจากประเทศฝรั่งเศสมายังประเทศอังกฤษเพื่อทำรัม จากนั้นก็เกิดสงครามขึ้นซึ่งก็นับเป็นสงครามปฏิวัติอเมริกันนั่นเอง
ชนิดของเหล้ารัม
โดยในนี้เราจะขอแบ่งตามสีที่ปรากฎของรัม ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด ดังนี้
1.White Rum
หรือในอีกสองชื่อที่รู้จักกันดีในนักดื่มก็คือ Silver Rum และ Light Rum เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดนี้มีสีใส ส่วนของกลิ่นและรสจะแตกต่างกันออกไปในส่วนของระยะเวลาและถังที่ใช้หมัก
2.Gold Rum
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดนี้มีสีเหลืองอำพันดุจดั่งสีของทองคำ ซึ่งสีเหลืองอำพันนี้เกิดจากกรรมวิธีการบ่ม หรือ การเติมส่วนของคาราเมลเข้าไป ทำให้เกิดเป็นรสและกลิ่นที่เฉพาะตัว
3.Dark Rum
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดนี้มีสีเหลืองเข้ม ซึ่งมีกรรมวิธีการบ่มที่คล้ายคลึงกับ Gold Rum แต่ใช้ระยะเวลาการบ่มที่นานกว่า Dark Rum และส่วนของคาราเมลที่เติมเข้าไปก็จะมีการเคี่ยวจนไหม้ทำให้สีของรัมชนิด Dark Rum เข้มกว่าชนิด Gold Rum
จากประวัติศาสตร์อันยาวนานของเหล้ารัมตั้งแต่ยุคแห่งการค้นพบโลกใหม่ ยุคตื่นทองคำขาว ยุคแห่งการค้ามนุษย์ ยุคแห่งการเดินเรือแลกเปลี่ยนทาสไปสู่ยุคแห่งการปฏิวัติอเมริกัน ทำให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดนี้กลายเป็นเครื่องดื่มที่มีเสน่ห์ในแบบฉบับของตัวเอง และมีรสชาติรวมถึงกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะควรค่าแก่การลองสักครั้งของนักดื่มทุกท่าน
เครดิตภาพ pixabay.com
อ่านบทความ เหมาไถ ตำนานเหล้าจีน ที่มีอายุมากว่า 2000 ปี
Credit : แอร์, ออกกำลังกาย, สุขภาพ, ขนมไทย, ของขวัญ