Single Malt หนึ่งในเครื่องดื่มสีอำพันที่มีรสชาติและเสน่ห์เฉพาะตัว นักดื่มชาวไทยอาจไม่ค่อยคุ้นเคยกับชื่อเครื่องดื่มสีอำพันชนิดนี้เท่าใดนักเนื่องด้วยส่วนของราคา และการนำเข้าที่ยังมีน้อยแบรนด์ น้อยยี่ห้อให้เลือกสรร แต่ในส่วนของนักดื่มต่างชาติและนักดื่มทั่วโลกนั้น Single Malt จัดเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มยอดนิยม และในส่วนของแบรนด์ยอดนิยม รวมถึงเป็นแบรนด์ที่นักดื่มมือใหม่สามารถเริ่มต้นดื่มกันได้ก็ต้องแบรนด์ Glenfiddich สำหรับบทความนี้เราจึงขอพาทุกท่านไปรู้จักกับ Single Malt และรู้จักกับแบรนด์ดังกล่าวนี้กัน
Single Malt กับเครื่องดื่มสีอำพันที่แตกต่าง
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักและความเข้าใจ Single Malt กันก่อนเลย โดยเราจะเริ่มจากการทำความรู้จักเครื่องดื่มสีอำพันที่มีชื่อว่า วิสกี้ โดยส่วนของวิสกี้นี้เป็นเครื่องดื่มที่ได้มาจากการหมักข้าวมอลต์ซึ่งเป็นเมล็ดข้าวบาเลย์ หรือ เมล็ดข้าวไรย์ที่แตกหน่อออกมาแล้วถูกนำไปตากแห้ง จากนั้นจะถูกนำไปกลั่นแล้วกลายเป็นวิสกี้ ในส่วนของภาษาอังกฤษ หลาย ๆ ท่านอาจพบกับคำว่า Whisky และคำว่า Whiskey ซึ่งมีความแตกต่างกันในส่วนของอักษร e หลังอักษร k เท่านั้น ในส่วนของอักษร e ก็บ่งบอกถึงแหล่งที่มาของวิสกี้นั่นเอง โดย Whiskey มีแหล่งกำเนิดมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาและไอร์แลนด์ ส่วน Whisky มีแหล่งกำเนิดมาจากประเทศแคนาดา ญี่ปุ่นและสกอตแลนด์ และวิสกี้ที่มีชื่อเสียงระดับโลกก็คือวิสกี้จากสกอตแลนด์ ซึ่งวิสกี้เองก็มีชื่อเรียกแตกต่างกันตามวัตถุดิบและกรรมวิธีการผลิตดังนี้
- Single Malt เป็นวิสกี้ที่ผลิตจากน้ำ, ข้าวมอลต์บาร์เลย์ และยีสต์เท่านั้น
- Single Grain เป็นวิสกี้ที่เกิดจากธัญพืชที่ไม่ถูกผ่านกระบวนการทำเป็น Malt
- Blended Scotch เป็นวิสกี้ที่ได้จากการผสมกันระหว่าง Single Malt หรือ Single Grain
- Blended Malt Scotch เป็นวิสกี้ที่ใช้เฉพาะ Single Malt มาผ่านกระบวนการจนได้วิสกี้ชนิดนี้ขึ้นมา
- Blended Grain Scotch เป็นวิสกี้ที่ใช้เฉพาะ Single Grain มาผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Blend เข้าด้วยกัน
ด้วยความหลากหลายนี้วิสกี้จึงเป็นเครื่องดื่มที่ยังคงเสน่ห์น่าหลงใหล โดยเฉพาะ Single Malt และโดยเฉพาะในแบรนด์ Glenfiddich
Glenfiddich กับแบรนด์ Single Malt ต้องลอง
สำหรับคอ Single Malt คงรู้จักมักคุ้นกับแบรนด์ Glenfiddich เป็นอย่างดี และในส่วนของนักดื่ม Single Malt มือใหม่ เราก็ขอพามาทำความรู้จักกับแบรนด์ดังกล่าวนี้กัน แบรนด์ดังกล่าวก่อตั้งโดยวิลเลี่ยม แกรนท์ (William Grant) ในปี ค.ศ.1886 ซึ่งมีสัญลักษณ์ของแบรนด์เป็นรูปหัวกวางที่สื่อถึงความหมายของชื่อแบรนด์ตามภาษาสกอตแลนด์ดั้งเดิมที่หมายถึงหุบเขาแห่งกวาง (Valley of Deer) และยังสื่อถึงช่วงเทศกาลคริสต์มาสซึ่งเป็นช่วงที่มีการผลิต Single Malt Whisky ให้ผู้คนได้ลิ้มลองรสในครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1887 รูปหัวกวางจึงนับเป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายและสื่อถึงรสชาติดั้งเดิมสไตล์สกอตแลนด์ได้เป็นอย่างดี
4 รุ่นยอดนิยม Single Malt ในแบรนด์ Glenfiddich
เราขอพานักลิ้มลองรสทุกท่านไปพบกับ 4 รุ่นยอดนิยม Single Malt ในแบรนด์ Glenfiddich ซึ่งแตกต่างกันในส่วนของปีที่ทำการบ่ม
- Glenfiddich 12 ปี กับ Single Malt ที่ใช้ระยะเวลาในการบ่มในถังโอ๊คเป็นเวลา 12 ปี เกิดเป็นรสชาติหวานหอมละมุน พร้อมกลิ่นที่ผสานกันระหว่างธัญพืช ดอกไม้ มอลต์ น้ำผึ้ง ส้ม โอ๊ค และ กลิ่นเครื่องเทศอ่อน ๆ
- Glenfiddich 15 ปี กับ Single Malt ที่ใช้ระยะเวลาในการบ่มในถังโอ๊ค ร่วมด้วยถัง Solera Vat เป็นเวลา 15 ปี เกิดเป็นรสชาติหวานหอมชุ่มคอ พร้อมกลิ่นที่ผสานกันระหว่างดอกไม้ ผลไม้ และ กลิ่นเครื่องเทศอ่อน ๆ
- Glenfiddich 18 ปี กับ Single Malt ที่ใช้ระยะเวลาในการบ่มในถังโอ๊คที่ผ่านการบ่มด้วยเชอร์รี่และเบอร์เบิ้น เป็นเวลา 18 ปี เกิดเป็นรสชาตินุ่มลึก พร้อมกลิ่นที่ผสานกันระหว่างผลไม้สุดโดดเด่น กลิ่นไม้แห้ง และ กลิ่นเครื่องเทศ
- Glenfiddich 21 ปี กับ Single Malt ที่ใช้ระยะเวลาในการบ่มในถังโอ๊คที่ผ่านการบ่มด้วยรัมเป็นเวลา 21 ปี เกิดเป็นรสชาติหอมหวานพิเศษ พร้อมกลิ่นที่ผสานกันระหว่างมะเดื่อ พลัม กล้วยหอม และพุทราเชื่อมจีน
ด้วยเสน่ห์จากต้นกำเนิดอย่างประเทศสกอตแลนด์และกรรมวิธีการผลิตที่พิถีพิถัน รังสรรค์ออกมาเป็น Single Malt ที่มีรสชาติและกลิ่นอายเฉพาะจากแบรนด์ Glenfiddich ทำให้แบรนด์ดังกล่าวเป็นหนึ่งในแบรนด์ดวงใจของทั้งนักดื่มเครื่องดื่มสีอำพัน และ แบรนด์น่าลิ้มลองของมือใหม่เริ่มดื่ม Single Malt กัน
เครดิตภาพ : drinksgeek.com
อ่านบทความ มาทำความรู้จักกับ “Single Malt” เครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว