ประวัติ WILD TURKEY ไวลด์ เตอร์กีย์ มาพร้อมกับตำนานเหล้าเบอร์เบิน ที่มีความยาวนานโดยถือว่ามากที่สุดเลยทีเดียว มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ 2540 ซึ่งถ้าให้พูดถึง Wild Turkey ไวลด์ เตอร์กีย์ ถือว่าสำหรับคนไทยในหลายๆคนนั้น คงอาจจะไม่รู้จักและอาจจะไม่คุ้นชื่อกับชื่อนี้ ซึ่งถ้าเป็นของในส่วนระดับชาตินั้น ถือว่าเขาเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่มีความชำนาญที่มีความยิ่งใหญ่ อย่างมหาศาลเลยก็ว่าได้ ซึ่งวันนี้เราก็ได้พาทุกท่านมาทำความรู้จักกับแบรนด์นี้ รับรองว่าท่านจะติดใจอย่างแน่นอน ไปทำความรู้จักกันเลย
ทำความรู้จักกับ Wild Turkey Bourbon
ชื่อแบรนด์ Wild Turkey ชื่อแบรนด์นี้ถือว่าเป็นชื่อแบรนด์ที่มีความโด่งดังโดยได้มีความกำเนิดขึ้นมานั้นเมื่อปี พ.ศ 2540 สมัยนั้นผู้บริหารของโรงกลั่น Thomas McCarthy (โธมัส แม็คคาร์ทนีย์) ได้มีการนำเอาตัวอย่างของเล่าจากโรงกลั่นนั้นไปทำการดื่มในระหว่างที่เขาไปทำการท่องเที่ยวล่าไก่งวงป่ากับผองเพื่อนๆ โดยในปีต่อมานั้น เพื่อนๆของเขาก็อยากดื่ม Wild Turkey เขาก็ได้นำไปให้ดื่มและมันก็เลยกลายเป็นชื่อแบรนด์ เกิดขึ้นมาในปัจจุบันนี้นั่นเอง
Wild Turkey มีการผ่านกระบวนการการกลั่นที่มีความถูกต้องและได้นำไปบรรจุในถังที่มีการโอ๊คใหม่ โดยในส่วนของปริมาณของแอลกอฮอล์นั้น ซึ่งเป็นปริมาณที่น้อยกว่าการเบิร์น ส่วนใหญ่ก็เพื่อที่จะทำให้มีรสชาติที่มีความเข้มข้นในระหว่างกระบวนการการผลิตนั่นเอง วิสกี้จะมีการได้ถูกนำไปบ่มไว้ในถังไม้โอ๊ค โดยอเมริกันคุณภาพสูงที่ได้นำเอาไป ทำการอังไฟที่ระดับที่สูงที่สุด The Number 4 “alligator” char หรือที่เขาเรียกอีกแบบหนึ่งว่า ระดับ 4 หรือที่เรียกกันว่า อัลลิเกเตอร์ / หนังจระเข้ นั่นเองซึ่งจะทำให้วิสกี้สีอำพันนั้นมีลักษณะที่เข้มและมีรสชาติที่มีความนุ่มนวล Wild Turkey ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในแบรนด์ไม่กี่ยี่ห้อเท่านั้นที่ใช้ในส่วนของกระบวนการการนำถังไม้โอ๊คไปทำการอังไฟในระดับที่สูงที่สุด โดยถือว่าจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงที่สุดด้วยเช่นกัน อีกทั้งวิสกี้ จะมีการนำไปบรรจุไว้ในถังและรวมที่มีการเก็บที่โรงกลั่นในเมืองของ Lawrenceburg, Kentucky หรือในเมืองที่มีชื่อภาษาไทยว่า ลอว์เรนซ์เบิร์ก รัฐเคนทักกี นั่นเอง
โรงกลั่น Wild Turkey ที่ได้มีการไปตั้งอยู่ในรัฐ โดยจะอยู่ใกล้กับ Kentucky River หรือที่เรียกกันว่าแม่น้ำเคนทักกี โดยในส่วนของแม่น้ำมีนั้น จะมีในส่วนของชั้นหินปูนใต้น้ำซึ่งชั้นหินปูนนี้ก็เปรียบเสมือนกับตัวกรองน้ำดีๆนั่นเองซึ่งเป็นตัวกรองน้ำที่ได้มาจากธรรมชาติทำให้รวมกันนั้นได้น้ำที่มีความใสและบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก ในส่วนของการกรองนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นเป็นอย่างมากในการผลิตวิสกี้ให้มีคุณภาพที่สูงและดี ในการหมักวิสกี้นั้นจะมีการผ่านในส่วนของการหมักเป็นทั้งหมดจำนวน 72 ชั่วโมง ในโรงกลั่น Wild Turkey
ซึ่งที่นี่นั้นจะมีทีม ที่ทำการปรุงวิสกี้อันโด่งดัง โดยจะมีชื่อว่า Jimmy Russell และ Eddie Russell โดย 2 คนนี้จะเป็นพ่อลูกกัน ซึ่งสองพ่อลูกนี้จะมีประสบการณ์ในการผลิตเหล้า เบอร์เบินเป็นอย่างมากเมื่อเอามารวมกัน แล้วเป็นระยะเวลาถึง 90
มาทำความรู้จักกับ เอ็ดดี้รัสเซลล์ กันถือว่าเขาคือใคร
เอ็ดดี้รัสเซลล์ เกิดเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 1981 Edward Freeman Russell (เอ็ดเวิร์ดฟรีแมนรัสเซลล์) ซึ่งบุคคลคนนี้เป็นลูกชายคนสุดท้องของตระกูลที่มีชื่อว่า รัสเซลล์ โดยบุคคลคนนี้จะอาศัยอยู่ในเมือง ลอว์เรนซ์เบิร์ก รัฐเคนทักกี ซึ่งเขาได้มีการเริ่มทำงานก็คือทำงานในกิจการของครอบครัวเขา เขาได้เรียนรู้ในส่วนของการผลิต เหล้าเบอร์เบิน ซึ่งถือว่าการผลิตนี้เป็นกิจการของครอบครัวเขาได้ทำการผลิตตามพ่อของเขา เนื่องจากพ่อของเขาได้ทำมาก่อนแล้วได้สอนเขา โดยเอ็ดดี้รัสเซลล์ ได้มีการลงไปทำการศึกษาเรียนรู้ งานที่หลายคนคิดว่าอะไรสำคัญ แล้วเขาก็ได้ศึกษาในส่วนของทุกขั้นตอนในการทำ ขั้นตอนในการผลิตวิสกี้ และองค์ประกอบที่สำคัญที่ใช้ในการผลิตวิสกี้นั่นเอง เอ็ดดี้รัสเซลล์ ได้เข้าใจความเป็นวิสกี้ Wild Turkey (ไวลด์ เตอร์กีย์) มากขึ้น จนสุดท้ายก็กลายมาเป็นตำนานที่ทุกคนได้รู้จักกันดีในปัจจุบันนั่นเอง
ประสบการณ์มากกว่า 36 ปี เอ็ดดี้รัสเซลล์ ก็ได้กลายเป็นผู้ที่มีความผู้เชี่ยวชาญเรื่องเหล้าเบอร์เบิน ซึ่ง เอ็ดดี้รัสเซลล์ จะอยู่ในฐานะของลูก นักกลั่นวิสกี้ ในตำนาน Jimmy Russell (จิมมี รัสเซลล์) และถือว่า เอ็ดดี้รัสเซลล์ ก็ได้เป็นทายาทในส่วนของตระกูลรัสเซลล์ รุ่นที่ 3 ที่ทำงานอยู่ในโรงกลั่น ไวลด์ เตอร์กีย์ ในลอว์เรนซ์เบิร์ก รัฐเคนทักกี เลยก็ว่าได้
ล่าสุดเขาก็ได้สร้างในส่วนของความฮือฮาด้วยการกำเนิด WildTurkey, American Honey Sting(ไวลด์เตอร์กีย์ อเมริกัน ฮันนีสติง ) และ WildTurkey Forgiven และ (ไวลด์ เตอร์กีย์ ฟอร์กีฟเวน) ขึ้นมาแล้วก็ได้รับรางวัลของประธานจากงาน Ultimate Spirits Competition ถือว่าเป็นกระแสเป็นอย่างมากในขณะที่กระแสการดื่มเหล้าเบอร์เบิน ก็ยังได้รับความนิยมไปอย่างทั่วโลกอีกด้วย
ล่าสุดก็ได้มีการเปิดตัว ครั้งแรกในเมืองไทยเลยก็ว่าได้ โดยจะมีการจัดงานที่ร่วมกันในระหว่าง Campari Group และ บริษัท อิตาเลเซีย เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้มีการจัดงานนี้เริ่มขึ้นมา โดยมีชื่องานว่า “Wild Turkey Bourbon Mater Class (Thailand) 2018” ซึ่งเป็นงานเปิดคลาสสิคอบรม บาร์เทนเดอร์ ในส่วนของงานนี้จะเน้นให้ความรู้เกี่ยวกับ Bourbon Whiskey ซึ่งมี MR. Eddie Russell จากสหรัฐอเมริกา โดยจะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ เกี่ยวกับวิสกี้ที่มากกว่า 30 ปีเป็นผู้อบรม
Credit : ที่พัก , เสริมสวย , สัตว์เลี้ยง , ต้นไม้ , แฟชั่นผู้หญิง , เครื่องสำอาง