วิธีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็จัดเป็นอีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ของการดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้ หลากหลายประเทศหลายชนชาติทั่วโลกก็จะมีวิธีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งรูปแบบการดื่มที่มีทั้งแบบร้อนและแบบเย็น หรือ แม้แต่ส่วนผสมที่นำมาเติมลงไปในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็จะเป็นอีกหนึ่งอรรถรสที่ช่วยสร้างความแตกต่างให้กับรสชาติของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ๆ ให้แตกต่างออกไปจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในแบบต้นฉบับ และหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็คือ Highball โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่นิยมดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยวิธีนี้กัน สำหรับบทความนี้เราจะขอพาทุกท่านไปร่วมทำความเข้าใจวิธีการดื่มดังกล่าว รวมไปถึงเหตุผลที่ว่าทำไมวิธีการดื่มนี้จึงนิยมในหมู่ชาวญี่ปุ่น
การดื่มด้วยวิธี Highball คืออะไร
การดื่มแบบ Highball ก็คือการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดั้งเดิมไปผสมกับโซดาซึ่งไม่มีรสชาติ แต่มีความซ่า เพื่อช่วยให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีรสชาติที่นุ่มขึ้น ละมุนขึ้นนั่นเอง
ประวัติของวิธีการดื่มแบบ Highball
วิธีการดื่มแบบ Highball นี้เป็นวิธีการดื่มที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน ซึ่งเราได้รวบรวมส่วนของประวัติที่สำคัญมาให้ทุกท่านได้รับทราบกัน ดังนี้
ปีค.ศ 1767 Joseph Priestly นักเคมีลูกครึ่งฝรั่งเศส-อังกฤษ (Anglo-French ) ได้คิดค้นโซดาซึ่งมีส่วนผสมมาจากโซเดียมไบคาร์บอร์เนตที่ถูกเติมน้ำมะนาวลงไปจนเกิดเป็นฟองขึ้น จากนั้น Joseph ก็นำน้ำโซดาดังกล่าวมาเติมลงในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเหล้าบรั่นดีจากฝรั่งเศส (Cognac) เกิดเป็นวิธีการดื่มดังกล่าวขึ้น และแม้ส่วนผสมสำคัญจะมาจากฝรั่งเศส แต่เรื่องราวการคิดค้นโซดาและวิธีการผสมที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดนี้เกิดขึ้นที่เมืองลีดส์ (Leeds) ประเทศอังกฤษ
การนำเสนอสูตรสู่ท้องทะเล โดย Joseph ได้นำเสนอวิธีการผสมดังกล่าวนี้แก่กัปตันเจมส์ คุก นักเดินเรือชาวอังกฤษ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และมีความเชื่อเพิ่มเข้ามาว่าสูตรการผสมดังกล่าวนี้สามารถรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันซึ่งเกิดจากการขาดวิตามินซีได้
ปี ค.ศ. 1870 เกิดการระบาดหนักของเพลี้ยไปยังต้นอ่อนขององุ่นซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเหล้าบรั่นดีจากฝรั่งเศสทำให้เหล้าบรั่นดีเกิดการขาดแคลน จึงมีการผสมโซดากับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่นแทน ซึ่งก็คือสก็อตวิสกี้

Highball กับก้าวแรกสู่ญี่ปุ่น
วิธีการผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่าง Highball ได้เข้ามาเป็นที่นิยมในประเทศญี่ปุ่น โดยมีประวัติที่น่าสนใจ ดังนี้
ปี ค.ศ. 1918 ณ เมืองโกเบ มีการเปิดตัววิธีการผสมเครื่องดื่มดังกล่าวครั้งแรก ซึ่งเป็นการผสมระหว่างวิสกี้ กับโซดา และมีการตกแต่งด้วยผิวของมะนาว โดยจุดนี้นับเป็นก้าวแรกที่ชาวญี่ปุ่นได้รู้จักและลิ้มรสเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ใช้วิธีการผสมดังกล่าว
ปี ค.ศ. 1937 มีการเปิดตัววิสกี้สัญชาติญี่ปุ่นครั้งแรก ซึ่งก็คือ Kotobukiya 12 years ซึ่งมีขวดเป็นทรงสี่เหลี่ยมคล้ายกระดองเต่า จึงมีชื่อเล่นเรียกว่า Kakubin และวิสกี้นี้ก็ถูกโปรโมทให้มีวิธีการดื่มด้วยการผสมโซดา จึงมีชื่อการดื่มเฉพาะว่า Kaku Hai
ปี ค.ศ. 1955 บริษัทเครื่องดื่มซันโทรี่ (Suntory) มีการสร้างบาร์ Tory’s ทั้งในโตเกียวและโอซาก้า ขึ้นใน 2 เมืองใหญ่คือเมืองโตเกียว และเมืองโอซาก้า เพื่อโปรโมทเครื่องดื่มวิสกี้ Kakubin ของตน และบาร์แห่งนี้ก็มีการโปรโมทวิธีการดื่มแบบ Kaku Hai ซึ่งบาร์ Tory’s ได้รับความนิยมดื่มในมนุษย์เงินเดือนทั้งชายและหญิงเป็นอย่างมาก
ปี ค.ศ. 2008 Kakubin มีพรีเซ็นเตอร์เป็นโคยูกิ คาโต้ ดาราสาวที่โด่งดังจากการแสดงภาพยนตร์ Hollywood เรื่อง The last Samurai ซึ่งประกบคู่กับดาราเจ้าบทบาทอย่าง Tom Cruise ทำให้ทั้ง Kakubin และวิธีการผสมวิสกี้กับโซดากลับมาเฟื้องฟูเป็นอย่างมาก
Highball กับวิธีผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยอดนิยมในญี่ปุ่น
วิธีการผสมยอดนิยมคือการใช้โซดา 3 ส่วน และ วิสกี้ 1 ส่วน และ วิธีดังกล่าวจะดื่มในรูปแบบเย็นซึ่งเป็นรูปแบบที่เหมาะกับสภาพอากาศในประเทศญี่ปุ่น ทำให้วิธีผสมเครื่องดื่มในรูปแบบดังกล่าวได้รับความนิยมสูงมากในประเทศญี่ปุ่น จนในปัจจุบันมีการผลิตในรูปแบบสำเร็จแบบไม่ต้องผสมเองทั้งในแบบขวดและแบบกระป๋อง
เราจะพบว่าวิธีการผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในแต่ละชนชาตินั้นจะมีส่วนของสภาพภูมิอากาศและวัฒนธรรมมาเป็นตัวกำหนดด้วย ซึ่งวิธีการผสมแบบ Highball ก็เป็นวิธีการผสมที่ตอบทุกโจทย์ของชาวญี่ปุ่นจึงทำให้วิธีการผสมดังกล่าวได้รับความนิยมสูงในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงประเทศที่มีภูมิอากาศใกล้เคียงกับประเทศญี่ปุ่น รวมถึงประเทศไทยด้วย
อ่านบทความ Nomunication วัฒนธรรมการดื่ม เพื่อธุรกิจของคนญี่ปุ่น