ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ คราฟเบียร์ หรือเบียร์โฮมเมดกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากมีรสชาติที่แตกต่างกันเฉพาะตัวออกไปในผู้ผลิตแต่ละเจ้า ทำให้ คราฟเบียร์ไทย กลายเป็นที่ได้รับความสนใจตามไปด้วย ทั้งในประเทศและนอกประเทศเลย เนื่องจากวัตถุดิบส่วนใหญ่ที่นำมาใช้ มักจะเป็นผลไม้ท้องถิ่นที่หลายคนรู้จักกันดี รวมทั้งให้รสชาติที่แปลกใหม่กว่าที่เคย มาดูกันดีกว่าว่า 10 แบรนด์คราฟต์เบียร์ของคนไทยที่ควรลอง มีอะไรบ้าง
1. คราฟเบียร์ไทย มหานคร (Mahanakorn)
คราฟเบียร์ไทยยี่ห้อนี้ ถือว่าค่อนข้างติดตลาดประมาณนึงแล้ว เพราะมีจำหน่ายตามร้านสะดวกซื้อชื่อดังต่างๆ ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะใช้วัตถุดิบเป็นของพื้นบ้านใกล้ๆ ตัวเช่น ข้าวหอมมะลิ และขนมเปียกปูน (น้ำตาลมะพร้าว พร้อมกลิ่นกาบมะพร้าวเผาและใบเตย) รสชาติจึงออกมาหอมหวาน และสดชื่นมากๆ
2. คราฟเบียร์ไทย อุดมสุข (Udomsuk)
หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่า อุดมสุขเป็นคราฟเบียร์ไทยเจ้าแรกๆ เลยที่วางตลาด แต่กลายเป็นของหายากเพราะมักจะไปขายตามงานอีเวนท์ หรือถ้าวางขายก็มีแบบจำกัดสุดๆ ต้องแฟนตัวยงเท่านั้นที่จะซื้อทัน คราฟเบียร์แบรนด์นี้จะออกขมๆ แบบเมกันสไตล์ แต่ก็จะมีรสชติต่างกันนิดหน่อยแล้วแต่ล็อตที่วางขาย
3. คราฟเบียร์ไทย โกลเด้นคอยน์ (Golden Coins)
ยี่ห้อนี้ก็เป็นอีกหนึ่งคราฟเบียร์ไทยยุคบุกเบิกที่หากินได้ยากเช่นกัน และมีขายเฉพาะที่บาร์คราฟต์เบียร์เท่านั้นด้วย เบียร์ของยี่ห้อนี้มีหลายสไตล์ให้เลือก แต่ถ้าเป็นแบบ IPA จะดื่มง่ายสุด เพราะมีรสขมจางๆ ติดปลายลิ้นเท่านั้น
4. คราฟเบียร์ไทย แซนด์พอร์ต (Sandport)
ถ้าไม่ใช่คอคราฟต์เบียร์จริงๆ อาจจะไม่รู้จักแบรนด์นี้เลย เพราะค่อนข้างจะหายาก และไม่ค่อยมีวางจำหน่ายให้ซื้อมาลิ้มรสชาติกันเท่าไร แต่ใครที่ได้ชิมต่างก็ชื่นชอบกันทั้งนั้น โดยเฉพาะตัว Too Much Coffee ที่เป็นเบียร์ดำกลิ่นกาแฟที่แค่ดมกลิ่นก็ฟินแล้ว

5. คราฟเบียร์ไทย ทริปเปิลเพิร์ล (Triple Pearl)
สำหรับคนที่ชื่นชอบ Wheat Beer หรือเบียร์จากข้าวสาลีที่มักจะดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อนๆ ต้องยี่ห้อนี้เลย ถึงจะหายาก แต่ก็คุ้มค่าที่จะลองตามสักครั้งหนึ่ง เพราะมีรางวัลการันตีจากเวที Beer Camp ด้วย
6. คราฟเบียร์ไทย เทพพนม (Devanom)
อีกหนึ่งคราฟเบียร์ไทยที่ได้รางวัล Best IPA จากเวที Beer Camp คือเบียร์เทพพนมที่ทั้งเก่าและเก๋าแบบที่คอเบียร์ทั้งหลายรู้จักกันดี รสชาติของเบียร์ยี่ห้อนี้จะเต็มไปด้วยกลิ่นผลไม้หอมหวาน และมีกลิ่นดอกไม้จางๆ มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ที่ตัดด้วยรสขมของยีสต์ ขวดเดียวยังไงก็ไม่พอ
7. คราฟเบียร์ไทย ชาละวัน (Chalawan)
พูดถึงคราฟเบียร์ไทย ยังไงก็ต้องมีเบียร์ชาละวันที่มาจากภูเก็ตแน่นอน เบียร์ยี่ห้อนี้เป็นเบียร์มีรางวัล และยังมีการนำสูตรไปผลิตกันที่ออสเตรเลีย แล้วเอาเข้ามาขายในไทยแบบถูกกฎหมาย รสชาติของเบียร์จะออกหอมหวาน มีกลิ่นลิ้นจี่ติดปลายลิ้นนิดหน่อย ปัจจุบันหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าเลยด้วย
8. คราฟเบียร์ไทย ผีบอก (Pheebok)
เบียร์ยี่ห้อนี้ มีจุดเด่นตั้งแต่โลโก้ที่ใช้รูปผีหลอนๆ ในหนังสือการ์ตูนเล่มละ 3 บาทสมัยก่อน เห็นแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่าที่รสชาติหอมๆ ปนรสขมจางๆ นี้ เป็นสูตรที่มาจากผีบอกจริงๆ หรือไม่ จากเดิมที่ขายแต่เฉพาะในบาร์คราฟต์เบียร์ ปัจจุบันนี้หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ เช่นกัน
9. คราฟเบียร์ไทย เชียงใหม่เบียร์ (Chiang Mai Beer)
พูดถึงชาละวันจากภูเก็ตไปแล้ว ก็ต้องพูดถึงเบียร์จากเชียงใหม่กันบ้าง เจ้านี้นำเข้าแบบถูกกฎหมาย เพราะไปผลิตกันที่ประเทศลาว ปัจจุบันนี้มี 2 รสให้เลือก คือ รถแดง IPA ที่จะมีกลิ่นซิตรัสจางๆ และ Chiang Mai Weizen สำหรับคุณผู้หญิงที่ไม่ชอบรสชาติขมๆ ในเบียร์
10. คราฟเบียร์ไทย สโตนเฮด (Stone Head)
ปิดท้ายกันที่อีกหนึ่งคราฟเบียร์ไทยมาแรง ที่นำเข้าแบบถูกกฎหมายเช่นเดียวกับชาละวัน และเชียงใหม่เบียร์ สโตนเฮดเป็นเบียร์ที่ผลิตจากประเทศกัมพูชา มีรสชาติให้เลือกหลากหลาย แต่แนะนำเป็น Seven Days Witbier ที่มีรสชาตินุ่มนวล และมีกลิ่นหอม
ใครที่อยากเข้าวงการคราฟเบียร์ไทยบ้าง ลองเริ่มจากแบรนด์ทั้ง 10 ยี่ห้อนี้ได้เลย บอกได้คำเดียวว่าเยี่ยมยอดไม่แพ้เบียร์จากต่างประเทศเลย แถมยังมีราคาถูกกว่ามากๆ อีกด้วย ถ้าหากว่าติดใจแล้วสั่งกับผู้ผลิตโดยตรงจำนวนมากๆ ก็จะได้ราคาที่ถูกลงอีก
อ่านบทความ : Craft Beer คืออะไร? แตกต่างจากเบียร์ทั่วไปในท้องตลาดอย่างไร?